สาเหตุของความทุกข์และวิธีแก้ทุกข์ง่ายๆ

ทุกข์ใจทําอย่างไรดี

อย่าเป็นทุกข์ให้โง่
ทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์

ความทุกข์เกิดจากอะไร? 

สาเหตุของความทุกข์...เกิดจากความคิดของเราเองที่เก็บเรื่องต่างๆมาคิดแล้วเป็นทุกข์ ความอยากได้ อยากเป็น อยากให้คงอยู่ ความเห็นแก่ตัว ความอยากอะไรต่างๆที่รวมเรียกว่า ตัณหา…เป็นเหตุของความทุกข์

การคิดมากเกินไป…เป็นเหตุของความทุกข์ การคิดลบไปต่างๆนาๆ เมื่อไม่ได้ดังที่ใจหวัง ความไม่สบายใจ ความกลัว ความกังวล ความโกรธ เสียใจ น้อยใจ ความแค้น ความโลภ ความกลัว กังวล ความผิดหวัง

ความทุกข์จากการการคาดหวัง…ทำให้ไม่มีความสุข การที่เอาชีวิตของเราเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนยังขาดอะไรมาเติมเต็มความสุข จริงๆแล้วทุกคนมีค่าในตัวเอง ทำเท่าที่เรามีความสุขก็พอ ไม่จะเป็นต้องไปคาดหวังว่าเราต้องเป็นเหมือนเขา

การคิดไปเองกลัวว่าคนอื่นเขาจะคิดว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ กลัวเขาดูถูก หรือการคาดหวังว่าคนอื่นจะเป็นอย่างที่เราต้องการก็ทำให้เกิดความทุกข์เช่นกัน เมื่อไม่คาดหวังก็ไม่มีความทุกข์ เขาจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขาไม่จำเป็นต้องบังคับให้เขาเป็นอย่างที่เราต้องการ

ความยึดมั่นถือมั่น เป็นตัวต้นเหตุให้เกิดทุกข์…ความอยากได้ การยึดติดกับสิ่งใดๆแม้กระทั่งร่างกายตัวเราเอง ซึ่งความจริงแล้วไม่มีสิ่งไหนที่อยู่กับเราตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะหนึ่ง ร่างกายของใคร หรือสิ่งของใดๆก็ตาม ตายไปเราก็เอาไม่ได้ ทุกอย่างไม่จีรัง ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ถ้ามันเกิดความทุกข์หม่นหมองใจ...แม้แต่นิดเดียวขึ้นมา…ก็ให้รีบหาให้พบว่า…มันเกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในอะไร เรากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไรอยู่ แล้วแก้ที่ตัวความทุกข์นั้นๆ

7 วิธีแก้ทุกข์ง่ายๆ 


  1. ความทุกข์ทางกาย…เป็นเรื่องธรรมดาถ้าร่างกายเรายังมีชีวิตอยู่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องทนกับทุกข์ทางกายนี้เรื่อยไปไม่มีวันพ้นไปได้ ทำได้ดีที่สุดคือป้องกันและดูแลรักษาเอาใจใส่ร่างกายตัวเองให้ดีที่สุด
  2. ความทุกข์ทางใจ…มันเกิดมาจากความโง่…ไปหลงยึดมั่นสิ่งนั้นๆว่า…เป็นตัวกู ของกู วิธีแก้ให้เราคิดว่าไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง คนไม่ได้ทุกข์…เพราะสิ่งที่เขาเจอในชีวิต แต่ทุกข์เพราะความคิดของตัวเอง ไม่มีใครตายเพราะความทุกข์…แต่ตายเพราะความคิดที่ยึดติดอยู่กับความทุกข์นั้น ยึดสิ่งไหนก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้น ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดเลยความทุกข์ทางใจทั้งหลายก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้เลย
  3. เราจะสามารถดับทุกข์ได้ เมื่อเรารู้เท่าทันใจของตัวเราเองหรือมีสติ…รู้ตัวอยู่เสมอว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ อย่าปล่อยให้อารมณ์ฟุ้งซ่านพาไปเรื่อยเปื่อย เราต้องเป็นคนคุมอารมณ์ให้เป็น คนที่หมั่นฝึกจิตฝึกสมองบ่อยๆ จะทุกข์น้อยลง ทุกข์สั้นลงกว่าเดิม คนฉลาด คือคนที่รู้ว่า…อะไรควรมองข้าม…อะไรควรเก็บเอามาคิด…ทุกข์เพราะเรื่องอะไรก็หยุดคิดเรื่องนั้น กลัวก็หยุดคิดเรื่องที่ทำให้กลัว เกลียดก็หยุดคิดเรื่องที่ทำให้เกลียด…ให้เราหยุดคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่ทำให้ใจมีปัญหา ใจของเราก็จะไม่มีปัญหา…เมื่อใจหมดปัญหา ทุกข์ทางใจก็ไม่เกิด
  4. การไปยุ่งเรื่องคนอื่น ทำให้เกิดความทุกข์…ไม่ว่าคนอื่นจะทุกข์หรือสุข แต่เราดันไปเก็บเรื่องของเขามาคิดเอาเอง ทั้งๆที่เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเราเลย อย่าเสียเวลาคิดเรื่องของคนอื่น เอาเวลามาคิดพัฒนาตัวเราเองดีกว่ารวมถึงการที่เรากังวลเกี่ยวกับความคาดหวังของคนอื่น สายตาของคนอื่น ขี้ปากของคนอื่น เป็นการเพิ่มความทุกข์ให้กับตัวเอง
  5. อย่าต้องอาลัยอดีต ไม่ต้องพะวงอนาคต ขอแต่ให้ทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องในปัจจุบัน
  6. ความทุกข์ใดๆ ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญ…มันก็ทำอะไรเราได้ยาก ปัญหามากกว่าครึ่งหนึ่ง ของปัญหาทั้งหมด…มันแก้ไม่ได้ด้วยเงิน เพราะมันเป็นเรื่องทางจิตใจ การมีใจที่หนักแน่น ใครจะมาด่าเรา ยั่วเรา เราก็เฉยๆ ไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์จนเกิดความทุกข์ ไม่ฟุ้งซ่านเผลอคิดเรื่องใดๆที่คิดแล้วทำให้เกิดทุกข์ เมื่อเราคุมจิตและอารมณ์ได้หมดก็จะไม่ทุกข์
  7.  ปัญหานั้นแก้ได้หรือไม่? ทุกข์ที่เกิดขึ้นเมื่อเจอปัญหาต่างๆ ถ้าสามารถแก้ไขไดก็ทำให้ดีที่สุด ถ้าแก้ไม่ได้ก็จงเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง…คือ หนทางแห่งความสุข

  1. เมื่อควบคุมความคิดคนอื่นไม่ได้ ก็ควบคุมความทุกข์และสุขของตนเองให้เป็น
  2. อดีตนั้นอยู่ข้างหลังและอยู่กับที่…มีแต่ความคิดเรา ที่ไม่ปล่อยวางเท่านั้น…ที่ย้อนกลับไปทุกข์ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
  3. ถ้าไม่ยอมปล่อยวางอะไรกันเสียเลย ในที่สุดเรือนร่างก็จะทนไม่ไหว
  4. ปล่อยให้ลง ปลงให้เป็น…ความทุกข์ที่ยากเย็น ก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย
    สังเกตที่ใจของเรา ถ้าอะไรที่ไม่ใช่ของเรา เราจะไม่มีความทุกข์ความเดือดร้อนอะไร
    เราไม่ทุกข์…เพราะเราไม่ได้ยึดถือว่าเป็นของเรา
  5. พระพุทธเจ้า สอนให้เรามาสะสาง…ไม่ใช่ให้เรามาสะสม
  6. การให้อภัย…ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตได้
  7. ปล่อยวางความโกรธ  การโกรธคนอื่นเขา…ก็เท่ากับจุดไฟเผาตัวเอง ไม่โกรธใครเลย เราก็จะไม่ทุกข์เลย…มีเมตตา ให้อภัยทุกคนตลอดเวลา เราก็จะมีความสุขตลอดเวลา
  8. บางครั้ง…การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ…ปล่อยวาง และก้าวต่อไปข้างหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม
  9. การปล่อยวางเรื่องความรัก…ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือเกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับไปในที่สุด…แต่ก่อนคิดว่า ถ้ามีคนรักคงมีความสุข…แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า การไม่มีคนรักก็มีความสุข…เพราะความสุขนั้น เราเองต่างหากที่เป็นคนสร้าง
  10. ถ้าทุกคนได้ทุกอย่าง อย่างที่คิด…สิ้นชีวิต จะเอาของ กองไปไว้ไหน…มันได้บ้าง เสียบ้าง ช่างปะไร…ได้เท่าไหร่ ก็เท่านั้น แหละท่านเอย

ถ้าเรามัวแต่เศร้าโศก…เราจะไม่มีความสุข กับเวลาที่เหลืออยู่

คนที่ฉลาด…ไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นทุกข์หรอก

ถ้าเรารู้ตัวว่ากำลังทุกข์ใจอยู่ ให้เราพยายามทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เราสบายใจ ไม่คิดฟุ้งซ่านเรื่องที่ทำให้เป็นทุกข์ เช่น ทำงาน ออกกำลังกาย ทำงานบ้าน ไปเที่ยว ไปวัด อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง พูดคุยกับคนที่สามารถให้กำลังใจเราได้ คนที่ฝึกตัวเองบ่อยๆ ฝึกจิตฝึกสมองบ่อยๆ จะทุกข์น้อยลง ทุกข์นานน้อยกว่าเดิม

  1. เพราะทุกๆอย่างเปลี่ยนแปลงตามเวลา…จะยึดมันไว้ได้แน่นแค่ไหน เวลาก็พรากมันไปจากเราอยู่ดี
  2. ผู้ที่อ่อนแอไม่สามารถให้อภัยใครได้…เพราะการให้อภัยได้นั้น นับเป็นความเข้มแข็งที่แท้จริง
  3. อุปสรรคคือบททดสอบของชีวิต…จงถามตัวคุณเองว่า กำลังถูกทดสอบเรื่องอะไร  ความเข้มแข็ง? การเปิดใจให้กว้าง? ความอดทนอดกลั้น? ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น? ความยืดหยุ่น? การให้อภัย? เมื่อได้คำตอบแล้ว อย่ารอช้ารีบปรับปรุงแก้ไขให้เร็วที่สุด
  4. ความทุกข์ มีไว้ทดสอบความเข้มแข็งของจิตใจ ความทุกข์อยู่กับเราได้ไม่นาน เราเลิกคิดมันก็เลิกทุกข์ ถ้าใจยอมรับความจริงได้ ว่าทุกอย่างในโลกนี้ไม่เที่ยง ใจก็จะไม่ทุกข์

สิ่งที่เราต้องทำคือ…ทำตัวทุกข์น้อยๆ สุขมากๆ ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้อย่างแท้จริงหรอก ไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม นอกจากตัวเราเองเท่านั้น การทำตัวให้มีความสุขคือหน้าที่ของเรา  ปัญหาของเรา…คือการกำจัดทุกข์ของตัวเอง

ถ้าเรารู้จักหน้าที่ของ “การมีชีวิต” เราจะรู้เลยว่า เราจะไม่เลือกอะไรที่สร้างความทุกข์ และความไม่สบายใจให้กับตัวเอง และจะไม่เบียดเบียนการใช้ชีวิตของคนอื่น หมั่นฝึกใจให้ยอมรับสภาพความเป็นจริงอันนี้ไว้ หนักแน่นและอดทนให้ได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยใจที่สงบและปล่อยวาง คนที่ปล่อยวางได้…ใจจะมีความสุข มีความสบาย เย็นอกเย็นใจ ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่วุ่นวาย

(รวบรวมมาจากคำสอนของท่าน พุทธทาสภิกขุ และธรรมะประจำวัน)

จำไว้ว่า ความทุกข์เริ่มที่ใจและความคิด ก็ต้องจบลงและแก้ด้วยใจและความคิดเท่านั้น ให้คิดเสมอว่าอะไรที่เราเปลี่ยนแปลงได้แล้วทำให้สถานการณ์นั้นดีขึ้น โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นเปลี่ยนก่อน เพราะถ้าคนอื่นไม่เปลี่ยนคุณจะรอทั้งชีวิตเพื่อจะมีความสุขเช่นนั้นหรือ