รู้จักกับเห็บ
สุนัขมักจะติดเห็บจากสถานที่ต่างๆ ไม่ใช่จากตัวสุนัขด้วยกันเอง ทั้งนี้เพราะเห็บจะหลุดจากตัวสุนัขเมื่อถึงเวลาลอกคราบเท่านั้น และจะไม่มีการเปลี่ยนไปดูดเลือดสัตว์ตัวอื่นกลางคัน เห็บชอบอยู่บนตัวสุนัขและในสภาพอากาศอบอุ่น พบได้ตามพื้นดิน บ้านและที่อยู่ของสุนัข แต่มักจะไม่กัดคน
เห็บเป็นพาราไซต์ที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากที่สุดในสุนัขบ้านเรา และในขณะเดียวกันก็เป็นปัญหาที่มีคนเข้าใจผิดมากที่สุดอีกด้วย การกำจัดเห็บต้องทำทั้งในบ้านและบนตัวสุนัข คุณสามารถกำจัดเห็บที่อยู่บนตัวสุนัขได้หมดด้วยผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัด แต่อย่าลืมว่าเพียงมีเห็บตัวเมียตัวเดียวหลุดออกจากสุนัขลงไปวางไข่ในบ้านคุณ บ้านคุณก็จะมีไข่เห็บ 1,000 – 3,000 ฟอง ที่จะฟักออกมาเป็นเห็บ 1,000 – 3,000 ตัว ได้ในอีก 19 – 60 วัน ข้างหน้า และคุณก็จะเจอกับปัญหาน่าคลื่นไส้เป็นที่สุด การกำจัดในบ้านนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งคุณจะต้องทำเป็นระยะเวลานานติดต่อกันเกิน 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
เนื่องจากความยาวของช่วงชีวิตเห็บที่กล่าวมาแล้ว อย่าคิดว่าการที่สุนัขมีเห็บน้อยลงแล้วปัญหาจะหมดไป เพราะไข่ของมันอีกหลายพันฟองอาจจะรอการฟักเป็นตัวอยู่ก็ได้ การกำจัดไข่เห็บและตัวอ่อนหรือตัวแก่ที่แอบซ่อนลอกคราบอยู่ตามบ้าน คือการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดในบริเวณซอกมุม รอยแตกร้าวของกำแพงและพื้น หลังเฟอร์นิเจอร์ ใต้เบาะรองนั่งของโซฟา และซอกอื่นๆที่คุณสามารถหาได้ในบ้าน รวมถึงกำแพงรอบๆบ้านบริเวณที่มีปัญหา
เห็บเป็นพาราไซต์ที่มีเปลือกแข็ง ซึ่งหมายความว่าน้ำยากำจัดเห็บก็จะทำงานได้ยากขึ้นหากไม่โดนจังๆ และถ้าน้ำยาไม่รุนแรงก็อาจจะใช้เวลานานกว่าเห็บจะตายหลังจากโดนน้ำยา แต่ถ้าน้ำยาแรงเกินไปคุณก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของสุนัขและสมาชิกในครอบครัวของคุณเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันมี ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บนั้นมีให้เลือกแทบนับไม่ถ้วนวางขายในท้องตลาด แต่คุณควรคำนึงถึงว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนเป็นยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่งมีสารเคมี ซึ่งหากใช้ไม่ถูกวิธีก็อาจเป็นอันตรายทั้งกับสุนัขและตัวคุณเองได้ ดังนั้นถ้ามีาทางเลือกที่ดีกว่าปลอดภัยกว่า การนำสมุนไพรมาใช้นั้นเป็นการประยุกต์ที่ประหยัด และไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ที่คุณรัก มีหลายวิธี ดังนี้
หนอนตายหยาก |
- นำ “หนอนตายอยาก” แช่น้ำไว้ในอ่าง เมื่ออาบน้ำให้หมาเสร็จแล้วถึงเอาน้ำที่แช่มาล้างตัวหมาอีกเป็นรอบสุดท้าย เอาน้ำที่แช่ผสมน้ำอีกเท่าตัวให้หมาไว้กิน วิธีนี้มันจะหนีออกจากตัวหมา(เพราะเลือดไม่อร่อยมั้ง) แต่ไม่ตายต้องตามไปจัดการอีกรอบ (รวมถึงน้องหมาอาจดูเมา ๆ ไปบ้าง) ไม่ควรใช้กับเจ้าตัวขนาดเล็กนะจ๊ะ
- น้ำส้มควันไม้ 100 % ได้มาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี ปลอดภัยต่อสุนัขและแมว ใช้ป้องกันเห็บหมัดได้โดยผสมกับน้ำเปล่า ใส่กระบอกฉีดน้ำ แล้วใส่ น้ำส้มควันไม้ 100 % ลงไปประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ เขย่าๆแล้วฉีดลงบนตัวสุนัขระวังอย่าให้โดนตา จากนั้นใช้ผ้าเช็ดให้ทั่วตัว กลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้จะทำให้หมัดเห็บเมื่อได้กลิ่นจะหนี ไล่ยุงและแมลงรบกวน และยังช่วยดับกลิ่นตัวสุนัขได้ด้วย ลดอาการคันและเชื้อราผิวหนังได้อีกด้วย
- น้ำคั้นมะขามเปียกเจือจางกับน้ำ 20 ส่วนในร้อย วิธีนี้หากหมาเป็นแผลที่ผิวหนัง ไม่ควรใช้เพราะจะแสบและทำให้เกาเป็นแผลเพิ่ม เหมาะสำหรับระยะที่เป็นไม่มาก วิธีใช้โดย ทำเหมือนการหมักผมก่อนสระ ทิ้งไว้ซัก 15 – 20 นาที (ถ้ามันยอมอยู่เฉยให้) แล้วพาไปอาบน้ำ
- เอาน้ำมันตะไคร้หอมผสมอัลกอฮอล์ 70% ในอัตรา 1:10 (น้ำมันตะไคร้ / อัลกอฮอล์) ฉีดพ่นบนตัวหมา โดยเฉพาะบริเวณ สร้อยรอบคอ หลังหู (กันการเลีย) และพวงหาง โดยพ่นซ้ำทุกสัปดาห์ หากไม่มีน้ำมันตะไคร้ ใช้น้ำมันส้มก็ได้
- ใช้น้ำมันมะพร้าวกับขมิ้นชันผสมทาผิว
- เมล็ดน้อยหน่า บดเมล็ดน้อยหน่าเป็นผงไว้ แช่ผงเมล็ดน้อยหน่าด้วยน้ำที่มีแฮลกอฮอล์ 10%ใช้น้ำ 2 เท่าของผงเมล็ดน้อยหน่า แช่ทิ้งค้างไว้หนึ่งคืน วิธีใช้ 1. กรองคั้นเก็บส่วนน้ำไว้เป็นหัวเชื้อ 2. นำหัวเชื้อ ไปผสมน้ำที่มีแอลกอฮอร์ 10 % เพื่อเจือจางอีก 6 เท่าของหัวเชื้อ แล้วกรองคั้นส่วนน้ำมารวมกัน 3. ใช้ฉีดพ่นให้โดนเห็บบนตัววัว หรือสุนัข จะฆ่าเห็บได้ทั้งตัวอ่อน เห็บตัวรุ่น และเห็บตัวแก่ 4. สัปดาห์ต่อมาจะมีเฉพาะเห็บตัวอ่อนขึ้นใหม่ ให้ใช้สารสกัดเมล็ดน้อยหน่า หัวเชื้อ มาเจือจางด้วย 10 % แอลกอฮอล์อีก 300 เท่า พ่นฆ่าเห็บตัวอ่อน เป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างน้อย 8-16 สัปดาห์ ขึ้นไป เพื่อไม่ให้เห็บตัวอ่อนขึ้นมาใหม่ สารสกัดต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และเก็บได้นานถึง 3 ปี แต่ไม่ควรสกัดเก็บไว้จะเปลืองไฟ ควรเก็บไว้ในสภาพเมล็ดไว้จะดีที่สุด เมื่อจะใช้ถึงนำมาแช่
ก็ดีนะ555+