ทำอย่างไรเมื่อเจองูและเมื่อถูกงูกัด

เราต้องระวังงูเข้าบ้าน โดยเฉพาะตรงมุมอับ ในช่วงหน้าฝน เพราะมีอากาศชื้น โดยสถิติปีที่ผ่านๆมามีผู้ถูกสัตว์มีพิษกัดหมื่นกว่าราย เรามี วิธีป้องกันไม่ให้งูเข้าบ้านหรือวิธีไล่งู มาแนะนำกันง่ายๆค่ะ 

ทำอย่างไรเมื่อเจองู

  1. หากเจองู ให้อยู่ห่างๆ นิ่งๆ ห้ามทำงูตกใจ แล้วเถอยฉากหนีอย่างช้าๆ  เพราะงูจะพุ่งฉกหรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหว  หากมีกระสอบหรือผ้าเช็ดเท้าขนาดใหญ่ โยนไปคลุมงูไว้เพื่อไม่ให้สามารถมองเห็นและสงบมันลง
  2. กันสัตว์เลี้ยงและสมาชิกนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กๆและหมาเอาไว้ให้ห่าง เพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ (อย่าเชื่อว่าหมาที่มีปานดำบนลิ้นนั้นถูกงูพิษกันไม่ตาย เพราะเป็นแค่ความเชื่อ ไม่ใช่ความจริง)
  3. สังเกตลักษณะงู แล้วโทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่มาช่วยบริการจับงู ได้แก่ 191 หรือ 199 หรือมูลนิธิและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ฯลฯ ไม่แนะนำให้พยายามจับงูเองนะคะ เนื่องจากเป็นความสามารถที่ต้องฝึกฝนมาอย่างชำนาญเฉพาะตัว

ทำอย่างไรเมื่อถูกงูกัด

    1. การปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด เพื่อลดอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้ใช้เชือก ผ้า หรือสายยาง รัดแขนหรือขาระหว่างแผลงูกัดกับหัวใจ (เหนือรอยเขี้ยว 2-4 นิ้วฟุต) เพื่อป้องกันมิให้พิษงูถูกดูดซึมเข้าร่างกายโดยเร็ว ให้รัดแน่นพอที่จะหยุดการไหลเวียนของเลือดดำ ควรคลายเชือกทุกๆ 15 นาที โดยคลายนานครั้งละ 30-60 วินาที จนกว่าจะถึงสถานพยาบาล
    2. ล้างแผลให้สะอาด ห้ามกรีด หรือดูดเลือดจากบาดแผล
    3. ควรจัดตำแหน่งของส่วนที่ถูกงูกัดให้อยู่ระดับต่ำกว่าหัวใจ (เช่น ห้อยเท้าหรือมือส่วนที่ถูกงูกัดลงต่ำ) ระหว่างเดินทางไปสถานพยาบาล อย่าให้ผู้ป่วยเดิน ให้นั่งรถหรือแคร่หาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษงู อย่าให้เคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็น
    4. ควรดูให้รู้แน่ว่าเป็นงูอะไร แต่ถ้าไม่แน่ใจ ควรบอกให้คนอื่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุช่วยตีงูให้ตาย และนำไปยังสถานพยาบาล
    5. ถ้าตรวจสอบแล้วรู้ว่าเป็นงูพิษให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1669
    6. ห้ามกินยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน เพราะจะไปเสริมให้พิษงูทำงานเร็วขึ้น
    7. อย่าให้ผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาดองเหล้า หรือกินยากระตุ้นประสาท รวมทั้งชา กาแฟ

Be the first to comment

Leave a Reply